การเตรียมพร้อมไว้ไม่ใช่เรื่องเสียหาย อย่างน้อยก็ช่วยลดความยุ่งยากให้กับลูกหลาน หรือถ้าคุณเป็นโสด อยู่คนเดียว ไม่มีลูกหลาน ยิ่งจำเป็นต้องจัดสรรทรัพย์สินที่มีอยู่ไว้ล่วงหน้า เพราะการแจกแจงทรัพย์สิน-หนี้สินว่ามีอะไรบ้าง อาจทำให้เห็นช่องทางเปลี่ยนทรัพย์สินบางอย่างให้เป็นเงินสดหมุนเวียน หรือต่อยอดลงทุนเพิ่มผลตอบแทนให้มีเงินเหลือเพียงพอใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้มากขึ้น
หลังจากจัดการทั้ง 5 ข้อตามนี้เรียบร้อย ก็คงจะพอทราบแล้วนะคะว่า เงินที่มีอยู่เพียงพอต่อภาระค่าใช้จ่ายที่จะเพิ่มขึ้นทุกวันไหม หากใครรู้ตัวว่าวางแผนเกษียณช้าเกินไป จึงมีเงินออมเหลือไม่พอใช้แน่ ๆ จะได้มองหาหนทางที่จะช่วยให้มีรายรับเพิ่มเข้ามา ซึ่งทางเลือกหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมในสังคมผู้สูงอายุขณะนี้ก็คือ “สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ” หรือ Reverse Mortgage ที่ให้ผู้สูงอายุนำบ้านปลอดภาระหนี้ของตัวเองมาจำนองกับธนาคาร แล้วธนาคารจะจ่ายเงินกู้ ให้ทุกเดือนจนกว่าจะเสียชีวิต หรือครบอายุสัญญากู้เงิน เปรียบเหมือนกับได้รับเงินบำนาญไปตลอดชีวิตนั่นเอง โดยที่คุณยังสามารถอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นได้จนกว่าจะเสียชีวิต
ปัจจุบันสินเชื่อ Reverse Mortgage มีให้บริการในธนาคารบางแห่งเท่านั้น ถ้าสนใจแนะนำให้ลองดู “สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ” ของธนาคารออมสิน เลยค่ะ ซึ่งให้ผู้มีอายุ 60-80 ปี ที่มีบ้าน ที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุดเป็นกรรมสิทธิ์ของตัวเอง มีกรรมสิทธิ์ร่วมสิทธ์ิของคู่สมรส ยื่นขอสินเชื่อเพื่อเปลี่ยนบ้านให้เป็นรายได้แบบรายเดือนได้ โดยเงื่อนไขสำคัญก็คือ บ้านหลังนั้นต้องเป็นที่อยู่อาศัยหลักของผู้กู้ และต้องมีชื่อของผู้กู้อยู่ในทะเบียนบ้านตลอดอายุสัญญากู้เงิน