เริ่มต้นด้วยการหาแรงจูงใจในการเก็บเงินล้าน ที่จะเป็นตัวกระตุ้นให้คุณมีแรงฮึดที่จะเก็บเงินก้อน บางคนอาจจะอยากได้บ้าน รถ หรืออาจเก็บเงินเพื่อแต่งงาน หรือมีลูก นั่นคือเป้าหมายในการเก็บเงินครั้งนี้นั่นเอง
หากใครยังไม่ได้เริ่มทำบัญชีรายรับรายจ่าย จงเริ่มได้แล้วนะคะ เนื่องจากบัญชีตัวนี้จะทำให้เราเห็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นด้วยการเปลี่ยนมาเป็นเงินออมค่ะ
สมมติว่าใน 1 เดือน คุณได้รับเงิน 10,000 บาท แต่หนึ่งในนั้นคุณหมดเงินไปกับค่าขนม จำนวน 4,000 บาท ต่อจากนี้คุณลองลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ดู เลือกซื้อแต่สิ่งที่จำเป็นมากกว่าสิ่งที่อยากได้ โดยอาจลดค่าขนมเหลือ 2,000 บาท ส่วนอีก 2,000 นำไปเพิ่มสัดส่วนเงินออมแทนค่ะ
เมื่อคุณเห็นรายรับ รายจ่ายของทั้งเดือน และก็ทราบจำนวนเงินที่คุณสามารถออมได้แล้ว ลองหาข้อมูลการออมเงินด้วยวิธีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การออมด้วยการซื้อกองทุน สลากออมสิน หรือการออมแบบฝากประจำตามโปรโมชั่นของธนาคาร ยังไงก็ลองศึกษาหาข้อมูล เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียและความเสี่ยงที่คุณรับได้ดูนะคะ จากนั้นก็เริ่มลงมือออมได้เลย อย่าลืมว่าควรออมเงินก่อนใช้นะคะ
นอกจากการออมตามวิธีข้างต้นแล้ว คุณอาจลองแบ่งเงินอีกส่วนหนึ่งเอาไว้สร้างรายได้เสริมเพื่อทำให้เงินงอกเงยได้เร็วขึ้นอีกทางหนึ่ง จากความสามารถพิเศษหรือความคิดสร้างสรรค์ที่มี เช่น วาดภาพเหมือน การทำสินค้า Handmade ขายสินค้ามือสอง หรือทำขนมน่ารักๆ ขายตามตลาดนัดในวันหยุด หรือขายแบบออนไลน์ก็ได้ นอกจากจะเป็นรายได้เสริมแล้ว ถือว่ายังช่วยลดเวลาใช้จ่ายเงินอีกด้วยนะคะ แต่หากใครมีพรสวรรค์ในด้านดนตรีหรือภาษาคุณอาจใช้ความสามารถนี้รับจ้างสอนพิเศษนอกเวลางานได้ด้วย วิธีหลังนี้คุณไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนเลยล่ะค่ะ …หลังจากได้เงินส่วนนี้แล้วให้นำไปเก็บออมตามวิธีที่เหมาะสม เพื่อเป็นการต่อยอดเงินออมอีกทางหนึ่ง
หลังจากออมเงินไปสักพัก ทั้งจากรายได้ประจำและรายได้เสริมแล้ว ลองคำนวณดูว่าเงินออมก้อนนี้งอกเงยไปได้มากน้อยเพียงใด โดยคุณสามารถปรับเปลี่ยนแผนการออมเงินได้เรื่อยๆ ตามสถานการณ์ทางการเงิน ณ เวลานั้น เช่น ในช่วงอีก 5 ปีข้างนอก ธนาคารอาจมีโปรโมชั่นเงินฝากในรูปแบบใหม่ๆ ที่น่าสนใจ หรือให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ก็ลองพิจารณาทางเลือกใหม่ๆ ดูนะคะ
———————————-