ขั้นแรกนี้อาจจะดูเบสิคๆ แต่สำคัญมาก การที่เราเห็นภาพที่ชัดเจนเกี่ยวกับทริปของเราว่าจะไปที่ไหนบ้าง ทำอะไรบ้าง และแต่ละอย่างมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่บ้าง จะทำให้ทริปของเราดูใกล้เป็นความจริงกว่าการฝันหวานลอยๆ อีกทั้งมันยังทำให้เราเก็บเงินได้ง่ายขึ้นด้วย
ทั้งหมดที่จะต้องเสียในทริปนี้ เช่น ค่าโรงแรม ค่าตั๋วเครื่องบิน pocket money สำหรับช้อปปิ้ง ค่าบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ ตั๋วคอนเสิร์ต หรือค่าเข้าสถานที่อื่นๆ ที่อยากจะไป เป็นต้น เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าต้องเก็บเงินทั้งหมดเท่าไหร่ และตั้งเป็นเป้าหมายของการออมเงินเอาไว้
แน่นอนว่าเมื่อเห็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดในทริปของเราแล้วอาจจะมีท้อใจบ้าง ยิ่งถ้าหากทริปของเราเป็นทริปที่กินระยะเวลาหลายวันและเต็มไปด้วยกิจกรรมแน่นเอี๊ยดแล้วด้วย ดังนั้น เพื่อกระตุ้นให้เรามีกำลังใจเก็บเงิน การระบุให้ชัดเจนกับตัวเองว่าอะไรเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้และอะไรเป็น Option เสริมที่พอจะตัดทิ้งไปได้ เป็นสิ่งที่ดี ไม่ใช่เพื่อตัดทอนจำนวนเงินที่ต้องออมลงไป แต่เพื่อสร้างกำลังใจให้ตัวเองในการปลดล็อคกิจกรรม Option เสริมต่างๆ ที่เราอยากทำไปเรื่อยๆ โดยไม่กดดันตัวเองมากจนถึงขนาดล้มทริปไปเลย ยกตัวอย่างทริปตามหาอปป้าที่เกาหลี เราสามารถแบ่งตัวเลือกต่างๆได้ อย่างเช่น
ตัวเลือกที่ตัดทิ้งไม่ได้:
เช่นค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ 13,000 บาท / ค่าที่พัก 7,000 บาท / ค่าโดยสารรถไฟใต้ดิน 3,000 บาท/ pocket money สำหรับอาหารและค่าช้อปปิ้ง15,000 บาท / ค่าเข้าชมคอนเสิร์ต 4,000 บาท / ค่าเคเบิลขึ้น-ลงโซลทาวเวอร์ 250 บาท= 42,250 บาท เป็นต้น
ตัวเลือกที่ตัดทิ้งได้:
เช่นค่าเข้าสวนสนุกและเครื่องเล่น 1,500 บาท / ค่าเข้าชมพิพิธภัณฑ์ 500 บาท= 2,000 บาท
รวมทั้งหมด 44,250 บาท
จากตัวอย่าง หากเราเก็บเงินได้แล้ว 42,750บาท แม้จะไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด แต่ก็เพียงพอที่จะไปเที่ยวได้ เราเพียงต้องเลือกตัด Option เสริมบางรายการออกไปเท่านั้นเอง
ขอแนะนำให้แยกบัญชีธนาคารเอาไว้ หากเก็บไว้ที่บ้านก็ต้องแยกกระปุกแยกเซฟแยกกล่องกันไว้เลย การทำแบบนี้จะช่วยป้องกันอาการใจอ่อน แอบเอาเงินสำหรับ
ทริปในฝันของเราไปใช้จ่ายกับอย่างอื่นที่ล่อตาล่อใจ เช่น บุฟเฟ่ต์หรือเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ ได้ โดยขอแนะนำว่าให้ออมเงินไว้ในบัญชีฝากประจำที่เพื่อความมีวินัย อย่างเงินฝากประจำ ธนาคารออมสิน มีทั้งระยะสั้น3 เดือน ไปจนถึงระยะยาวอย่าง 2-3 ปี ให้ได้เลือก นอกจากนี้ยังมีประเภทเงินฝากประจำรายเดือนยกเว้นภาษีที่ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 2.25% ต่อปีอีกด้วย เรียกว่าเป็นการออมเงินที่คุ้มสุดๆ ไปเลย
พรินต์ภาพที่ที่เราอยากไปแล้วแปะไว้ที่กำแพงห้องหรือหัวเตียงเลยยิ่งดี ให้เราได้เห็นทุกวันทั้งยามจะหลับและยามตื่น เป็นการเตือนตัวเองให้ไม่ลืมว่าเราประหยัดไปเพื่ออะไร ก็เพื่อทริปในดวงใจของเรายังไงล่ะ
ในกรณีที่ออมเงินไม่ถึงเป้าจริงๆ และทริปที่เราจะไปเป็นทริปมีกิจกรรมแบบเหมากลุ่มเยอะ เมื่อมีจำนวนคนเยอะราคาต่อหัวจะถูกลง เช่น การไปทะเลที่ต้องเสียค่าเก้าอี้ชายหาด บานาน่าโบ๊ท และแพ็คเกจล่องเรือเที่ยวเกาะ เป็นต้น หากออมเงินไม่ถึงเป้าจริงๆ ลองชวนเพื่อนที่สนใจมาร่วมทริปเพิ่มดูสิ เพื่อนก็ได้เที่ยว เราก็ได้เที่ยว ทุกคนได้เที่ยวในราคาที่ถูกลง วิน-วิน แฮปปี้จะตาย
————————–