จะซื้อบ้านหรือคอนโดให้ดีต้องดูที่อะไร
การเป็นเจ้าของบ้านในฝันเปรียบเสมือนถ้วยรางวัลของชีวิต ก่อนตัดสินใจที่จะลงทุนครั้งนี้จึงไม่ควรปุบปับเพราะแม้ว่าจะถูกใจกับภาพลักษณ์บ้านและความเพียบพร้อมของสิ่งอำนวยความสะดวกภายในเพียงใด แต่สิ่งที่จะตอบได้ว่าเราตัดสินใจอย่างถูกต้องควรพิจารณาจากหลายองค์ประกอบรวมกัน ได้แก่
1.ทำเลที่ตั้ง
เรื่องของทำเลคืออย่างแรกๆ ที่ต้องไตร่ตรองก่อนตกลงใจที่จะซื้อบ้านหรือคอนโด เพราะโลเคชั่นที่เหมาะสมย่อมทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเป็นเรื่องง่ายขึ้น สร้างกำไรในระยะยาว ทำเลแบบไหนเรียกว่าทำเลทองบอกได้จากสิ่งเหล่านี้
- แหล่งอำนวยความสะดวกโดยรอบที่เข้าถึงได้ง่าย เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า
- ขนส่งสาธารณะใกล้เคียง สำหรับใครที่เดินทางไปไหนด้วยรถไฟฟ้าเป็นประจำย่อมสะดวกมากกว่า ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง รวมทั้งใกล้ถนนสายหลักหรือทางด่วนเพื่อความความคล่องตัว
- มีความปลอดภัย โดยการตรวจสอบว่าบริเวณละแวกที่อยู่อาศัยนั้นมีความเป็นอยู่อย่างไร สามารถอยู่คนเดียวหรือมีคนเฒ่าคนแก่หรือต้องดูแลเด็กเล็กได้อย่างสบายใจหรือไม่ มีระบบ/เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ใกล้เคียงสถานีตำรวจคอยช่วยเหลือหรือไม่
- มูลค่าในอนาคต (Future Value) การลงทุนย่อมคาดหวังซึ่งกำไร เพื่อให้แน่ใจว่าการจ่ายเงินครั้งนี้จะคุ้มค่าควรติดตามความเปลี่ยนแปลงของราคาอสังหานั้นว่ามีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาน้อยอย่างไรเพื่อในอนาคตจะสามารถสร้างกำไรอีกทางจากการปล่อยเช่าหรือขายต่อ
2.ขนาดพื้นที่และการวางแปลน
ปฎิเสธไม่ได้ว่าขนาดพื้นที่ของที่อยู่อาศัยเป็นตัวกำหนดวิถีการใช้ชีวิตว่าเราจะสามารถมีความสุขกับการอาศัยในพื้นที่จำกัดนี้ได้อย่างไร เช่น มีจำนวนห้องนอนและห้องน้ำที่เพียงพอกับสมาชิกในบ้าน มีพื้นที่นั่งเล่นทานอาหารที่คนในครอบครัวสามารถใช้เวลาร่วมกันได้อย่างอบอุ่น มีบริเวณห้องครัวที่ใช้ทำอาหารจานโปรดได้อย่างคล่องตัว แม้การมีขนาดพื้นที่ที่ใหญ่และกว้างขวางกว่าจะหมายถึงการมีอิสระในการทำกิจกรรมต่างๆ อยากจัดวางเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องมือเครื่องใช้อะไรก็สามารถทำได้อย่างเต็มที่ ทว่าราคาอสังหาก็พุ่งทวีสูงขึ้นเช่นกัน และแม้ว่าการมีพื้นที่น้อยลงมาจะทำให้ราคาจับต้องได้มากขึ้นแต่มีผลเรื่องความสะดวกสบายในระยะยาว
ส่วนสำคัญของการเลือกที่อยู่อาศัยจึงต้องใส่ใจกับการวางแบบแปลนเลย์เอาต์ที่สามารถใช้สอยพื้นที่ทุกตารางเมตรได้อย่างคุ้มค่า เพราะแม้พื้นที่จะไม่กว้างใหญ่แต่หากการจัดสรรพื้นที่ที่ดีจะสามารถทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่รู้สึกอึดอัดทั้งยังใช้ชีวิตได้อย่างลงตัวแม้มีพื้นที่จำกัด
3.ราคา
แน่นอนว่าด้วยทำเลที่ดีกว่าและพื้นที่ที่กว้างกว่าย่อมหมายถึงราคาที่ต้องจ่ายเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน ทว่าจะรู้ได้อย่างไรว่าเราควรมองหาบ้านหรือคอนโดในราคาเท่าใดจึงเรียกว่าเหมาะสมและตอบรับกับกำลังทรัพย์ที่มี ซึ่งต้องยอมรับว่าราคาของการซื้อที่อยู่อาศัยนั้นนับว่าเป็นจำนวนเงินก้อนโตที่หากจะเก็บสะสมอาจกินเวลาหลายสิบปี ทางออกของคนที่ไม่อยากให้ความฝันหลุดลอยไปคือการเลือกพึ่งพา สินเชื่อเคหะธนาคารออมสิน สินเชื่อบ้านที่ช่วยสานฝันความต้องการมีบ้านของทุกคน และเพื่อให้การตัดสินใจซื้อบ้านหรือคอนโดในราคาที่เหมาะสมควรคิดจากยอดผ่อนที่พอดีกับรายได้ โดยส่วนใหญ่แล้ว วงเงินที่ธนาคารให้กู้สินเชื่อบ้านมักอยู่ระหว่าง 80-100% ของราคาบ้าน ที่เมื่อได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้ว ต่อไปคือการผ่อนคืนให้ธนาคารจนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลา ซึ่งธนาคารออมสินกำหนดให้มีระยะเวลาไม่เกิน 40 ปี ยอดผ่อนที่แต่ละคนสามารถแบกรับไหวควรอยู่ที่ 50% หรือน้อยกว่าของเงินเดือน สามารถตรวจสอบความพร้อมล่วงหน้าได้ที่ ตัวช่วยคิดเงินผ่อนก่อนซื้อบ้าน/คอนโด
อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สินเชื่อเคหะ ธนาคารออมสิน
- กรณีผู้กู้ประสงค์ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ
ปีที่ 1 – 3 MRR – 2.755 (อัตราดอกเบี้ย (ร้อยละต่อปี))
ปีที่ 4 เป็นต้นไป MRR – 1.250 (อัตราดอกเบี้ย (ร้อยละต่อปี))
2. กรณีผู้กู้ไม่ประสงค์ทำประกันชีวิตเพื่อคุ้มครองวงเงินสินเชื่อ
ปีที่ 1 – 3 MRR – 2.255 (อัตราดอกเบี้ย (ร้อยละต่อปี))
ปีที่ 4 เป็นต้นไป MRR – 0.750 (อัตราดอกเบี้ย (ร้อยละต่อปี))
3. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้กรณีซื้อที่ดินเพื่อเตรียมปลูกสร้างอาคาร
จำนวนเงินให้กู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท MRR + 1.00
จำนวนเงินให้กู้เกินกว่า 3 ล้านบาท MRR + 2.00
อัตราดอกเบี้ยกรณีผิดนัดไม่ชำระหนี้ เท่ากับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดตามสัญญาบวกร้อยละ 3 ต่อปี
เปรียบเทียบบ้านและคอนโด อย่างไหนที่เหมาะกับเรา
ซื้อบ้านดีกว่าคอนโดอย่างไร
- พื้นที่กว้างขวางของบ้านให้อิสระได้มากกว่า ทั้งบริเวณหน้าบ้านและหลังบ้านให้ใช้สอยได้อย่างเต็มที่ จะอยากปลูกผัก ปลูกต้นไม้ มีสัตว์เลี้ยงตัวโปรด หรือ พื้นที่ออกกำลังกายก็จัดเต็มได้เลย
- อยู่บ้านให้ความเป็นส่วนตัวได้มากกว่า เพราะไม่ต้องแชร์ผนังบ้านร่วมกับใคร เบาใจคนรักความสงบและอยากอยู่ห่างไกลจากความวุ่นวาย ตอบโจทย์ชีวิตครอบครัว
- เป็นของเราโดยสมบูรณ์ จะต่อเติมดัดแปลงหรือรีโนเวทอะไรเพิ่มก็ทำได้เลย ไม่มีกฏระเบียบมาจำกัดเหมือนอย่างคอนโด
- ตอบโจทย์การวางแผนอนาคตครอบครัวระยะยาว ถึงคราวขยับขยายสมาชิกในบ้าน มีเจ้าตัวน้อยหรือดูแลบุพการีก็มีพื้นที่รองรับ
ซื้อคอนโดดีกว่าบ้านอย่างไร
- แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย เพราะมักมีทำเลอยู่ใกล้ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ โรงพยาบาล ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง
- เดินทางสะดวกรวดเร็วเพราะมักเชื่อมถึงระบบขนส่งสาธารณธะในตัวเมืองอย่างรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน
- ความปลอดภัยที่เข้มงวดด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของคอนโดที่มีทั้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและกล้องวงจรปิดคอยตรวจตรา
- เบาภาระในการบำรุงรักษา ถึงคราวมีสิ่งชำรุดหรือต้องการซ่อมแซมก็สามารถแจ้งนิติคอนโดช่วยดูแลได้เลย
ท้ายที่สุดแล้วทั้งบ้านและคอนโดต่างมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป เมื่อได้ชั่งใจกับตัวเลือกที่ตรงใจกับความต้องการเฉพาะบุคคลแล้ว สิ่งสำคัญที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือวิธีจัดการกับภาระผูกพันทางการเงินที่ต้องผ่อนคืนกับธนาคารทุกเดือนจนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลากู้ยืม สิ่งสำคัญที่ต้องห้ามลืมคือวินัยทางการเงินเพื่อให้สามารถรับมือกับภาระที่เพิ่มมากขึ้นได้อย่างราบรื่นตลอดรอดฝั่ง